วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
คติเตือนใจ.....สอนใจตัวเอง^_^
1. นึกว่าเสมอว่าการโกรธ 1 นาที จะทำให้ความทุกข์อยู่กับเธอ 3 ชั่วโมง
2. ถ้ายิ้มให้กับคนที่อยู่ในกระจก รับรองว่าเค้าต้องยิ้มตอบกลับมาทุกครั้งแน่!
3. หลับตานิ่งๆ ซัก 3 นาที เมื่อรู้สึกว่าอะไรตรงหน้ามันช่างยากจัง
4. ระหว่างแปรงฟันถ้าฮัมเพลงด้วยไปจนจบจะทำให้ฟันสะอาดขึ้น 2 เท่าแน่ะ
5. เคี้ยวข้าวแต่ละคำให้ช้าลง จากที่รสชาติธรรมดาก็จะอร่อยขึ้นเยอะ
6. ควรหัดพูดคำว่า “ไม่เป็นไร” ให้เคยปากมากกว่าการพูดคำว่า “จะเอายังไง”
7. สัตว์เลี้ยงที่บ้านเก็บความลับเก่ง เรื่องที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้จึงเล่าให้มันฟังได้
8. อาหารที่ไม่ชอบกินตอนเด็ก ลองตักเข้าปากอีกที เผื่อจะกลายเป็นอาหารจานโปรด
9. เขียนชื่อคนที่เธอเกลียดใส่กระดาษแล้วฉีกทิ้งความเกลียดจะเบาบางลงเรื่อยๆ
10. ให้ปล่อยน้ำตาไหลโดยไม่ต้องเช็ด เมื่อน้ำตาแห้ง จะดูไม่ออกว่าเพิ่งร้องไห้มา
11. ก่อนจะซื้ออะไรก็ตาม ต้องคิดหาประโยชน์ของมันให้ได้อย่างน้อย 3 ข้อก่อน
12. ถึงเสื้อกางเกงในตู้จะมีอยู่น้อย แต่ถ้าสลับกันไปเรื่อยๆก็ดูเหมือนจะเยอะขึ้น
13. เลือกให้ของขวัญคนที่ไม่เคยได้ ดีกว่าคนได้เยอะจนจำชื่อคนให้ไม่หมด
14. ในวันที่รู้สึกเศร้าๆ เหงาๆ เดินไปซื้อดอกไม้ให้ตัวเองซักดอกแล้วจะดีขึ้น
15. แอบรักใครซักคน ยังไงก็ดีกว่าไม่เคยรู้ว่าความรู้สึก “รัก” เป็นยังไง
16. ถึงจะไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแต่งตัวสวยๆ หล่อๆ ไม่ได้นี่
17. พยายามอ่านหนังสือทุกชนิดในมือให้จบเล่มอาจไม่สนุกแต่มีประโยชน์แฝงอยู่
18. วันที่ตื่นเช้าๆ ให้บิดขี้เกียจนานที่สุดเท่าที่จะทำนานได้ ถ้าขี้เกียจออกกำลังกายน่ะ
19. รู้รึเปล่าว่าดอกไม้ที่บานอยู่กับต้น ยังไงก็อยู่ได้นานกว่าบานในแจกัน
20. ทะเลาะกับใครๆ พร้อมรอยยิ้ม เรื่องราวจะจบง่ายกว่าที่คิดเยอะ
21. เอารูปตัวเองตอนเด็กๆ มาดูตอนเครียดอารมณ์จะดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
22. พยายามหาข้อบกพร่องของคนที่เธออิจฉาอย่างน้อยก็มีข้อปลอบใจตัวเองบ้าง!
23. โทรไปหาแฟนแล้วพูดแคคำเดียวว่า “คิดถึง” พอวางสายแล้วต้องยิ้มทั้งคู่
24. ในวงสนทนาถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะคุยอะไรรอยยิ้มช่วยแก้สถานการณ์ได้
25. ค่อยๆ เดินทอดน่องแบบสบายๆ ในวันที่ไม่มีธุระให้ต้องไปสะสาง
26. ซื้อของฝากทุกคนในบ้าน ก็เหมือนกับการซื้อของฝากตัวเองนั่นแหละ
27. จะหน้าตายังไงก็แล้วแต่ ถ้าทิ้งขยะลงพื้นก็กลายเป็นขี้เหร่ได้ทันตาเห็น
28. นั่งสมาธิให้นานๆ และบ่อยๆ ก็ทำให้ผิวสวยขึ้นได้เหมือนกัน
29. นอกจากตอนที่เคี้ยวข้าวแล้ว ไม่ว่าก่อนหรือหลังกินก็หัวเราะได้อร่อย
30. จินตนาการถึงเรื่องที่อยากมีหรืออยากเป็นคือยานอนหลับอย่างหนึ่ง
31. อ่านหนังสือหรือการ์ตูนโปรดเป็นการเติมน้ำมันให้ตัวเองอย่างดี
32. ยังไม่มีใครเคยแย้งว่า การอาบน้ำไม่สามารถคลายเครียดได้จริงๆ
33. ก่อนจะด่าใครให้นับ 1 ถึง 50 เผลอๆ อาจจะไม่อยากด่าแล้วก็ได้
34. ไม่ต้องทำยังไงกับเพื่อนที่หักหลังก็แค่อย่าเรียกเค้าว่าเพื่อนก็พอแล้ว
35. รักครั้งแรกส่วนใหญ่ก็อกหักทั้งนั้น น่าจะดีใจที่ไม่แปลกกว่าชาวบ้านเค้า
36. การที่ทำของหายอาจเป็นการใช้หนี้ของชาติที่แล้วให้คนอื่นที่เก็บมันได้
37. ถึงจะไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าซักบาท ยังดีกว่าไม่มีเสื้อผ้าให้ใส่ตั้งเยอะ
38. หนี้ที่โดนเบี้ยวไป ทำให้เรารู้จักใครบางคนดีขึ้นโดยไม่ต้องใช้เวลามาก
39. คนอื่นไม่เข้าใจเราไม่เห็นแปลก ในเมื่อเราก็ไม่เข้าใจคนอื่นเหมือนกัน
40. ไม่ต้องช่วยใครๆ ด่าตัวเอง ถ้าสิ่งที่ทำไปแน่ใจว่าพยายามเต็มที่แล้ว
41. วิ่งให้เหนื่อยมากๆ ความโกธรจะได้ถูกขับออกมาพร้อมกับเหงื่อ
42. ถ้ากลัวจะนอนฝันร้าย สวดมนต์ก่อนนอนเหมือนตอนเด็กๆ ดูสิ
43. ของฝากสำหรับคนห่างไกล คือการโผล่ไปเซอร์ไพรส์ด้วยตัวเอง
44. เพลงจังหวะมันๆ ทำให้คนฟังกระปรี้กระเปร่าได้โดยอัตโนมัติ
45. อย่าเดาว่าอะไรอยู่ในกล่องของขวัญ แล้วจะไม่รู้จักคำว่าผิดหวัง
วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555
อาหารเช้าที่มีประโยชน์^_^
เมนูอาหารเช้า
อาหารเช้านั้นสำคัญมากเหลือเกิน เพราะมันจะให้พลังงานแก่ร่างกาย เพื่อให้ร่างกายทำงานได้ทั้งวัน นอกจากนี้แล้ว ถ้าเราเลือกประเภทอาหารมาเป็นอาหารเช้าให้ดีแล้ว มันจะมีผลต่อสมองหรือความฉลาดของเราด้วยนะเออ เขาพิสูจน์มาแล้วว่า การทานอาหารเช้าที่มีคุณภาพ จะมีผลต่อความกระฉับกระเฉงของร่างกาย ระบบความจำ ทักษะการเรียนรู้ และอารมณ์ด้วยนะ เอ้า...ใครอยากฉลาด หนทางง่าย ๆ ทางนี้จ้า
ผลไม้สด
เดี๋ยวนี้อาหารเช้าที่มีแต่ผลไม้สด ก็เป็นอีกเมนูหนึ่งที่เขาฮิตทานกัน มีงานวิจัยบางชิ้นสนับสนุนการทานผลไม้สดเป็นอาหารเช้า นั่นเป็นเพราะว่าผลไม้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รี่, มะนาว, ส้ม, แอปเปิ้ล จะเต็มไปด้วยวิตามินซีที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าเป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อการทำงานของสมองของเราแต่ถึงแม้ผลไม้จะดีอย่างไรก็ตาม เราก็ควรท่านร่วมกับอาหารพวกแป้งด้วยจะดีกว่า อาจจะเป็นเมล็ดธัญพืช, ขนมปังปิ้ง, ซีเรียล
ประเภทปลา
อาหารเช้าแบบปลา ที่บางคนมักจะบ่นและเลี่ยงไม่ชอบ เพราะออกจะคาวนี่แหละสำคัญมาก อย่างปลาซาดีนกระป๋องก็ดี หรือจะปลาทูทอด อย่างหรูก็ปลาแซลมอนรมควัน พวกนี้อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ที่มีมากในปลา ช่วยสมองได้ดีทีเดียว
ไข่
มีคนอยากผอมหลายคนนะ ที่กลัวกลั๊วกลัวไข่กันเหลือเกิน ต้องมีการจำกัดว่าต้องทานเท่าไร บางคนนะเลิกทานไปเลย เป็นซะอย่างนั้น แต่ถ้าได้ดูจากข้อมูลต่อไปนี้แล้วคงต้องเปลี่ยนใจ เพราะในไข่ฟองหนึ่งจะประกอบด้วยสารอาหารหลากหลายอย่าง เช่น ซิงค์, วิตามินบี 12 และวิตามินบีรวมอีกมากมาย จะช่วยให้ความจำดีขึ้น แถมยังไปช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอของสมองอีกด้วยนะ แต่ไม่ใช่ว่ารู้อย่างนี้แล้วรีบตักไข่ใส่ปากใหญ่เลยล่ะ เพราะเขามีโควต้าว่า ถ้าจะให้ดีควรทานไม่เกิน 3 ฟองใน 1 อาทิตย์ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสี่ยงต่อระดับโคเลสเตอรอลแต่เนิ่น ๆ
โยเกิร์ต
ใครที่เลือกทานโยเกิร์ตเป็นอาหารเช้ายกมือขึ้น!!! คุณฉลาดมากที่เลือกทานโยเกิร์ต เพราะว่าเต็มไปด้วยโปรตีนสูง จำพวกกรดอะมิโน เป็นผลดีต่อเซลล์ในร่างกาย อีกทั้งยังมีประโยชน์ลึก ๆ ที่จะต้องทำให้คุณพอใจ นั่นก็คือ โยเกิร์ตมีผลทำให้ร่างกายอยากอาหารจำพวกของขบเคี้ยวได้ด้วย
ซีเรียลแท่ง
แท่งที่เหมือนขนม แต่อุดมไปด้วยสารอาหารดีเยี่ยมที่เด็ก ๆ ส่วนใหญ่ยังชอบทาน ความเป็นจริงก็คือมันไม่ค่อยได้ให้ประโยชน์ต่อสมองมากเท่าไร และยังมีน้ำตาลเยอะ ถึงแม้จะทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉง แต่พลังงานก็จะหมดไปเร็วเหมือนกัน ถ้าเลือกจะทานซีเรียลแท่งเป็นอาหารเช้า ก็ควรจะใส่ผสมลงในโยเกิร์ตหรือนมสด ก็จะช่วยเพิ่มโปรตีนได้มากขึ้น ซึ่งแน่นอนจะมีประโยชน์ต่อสมองเพิ่มขึ้น
ขนมปังปิ้ง
อาหารของฝรั่งอีกอย่าง ที่ดูเหมือนจะเป็นที่คุ้นเคยกับปากคนไทยอย่างเราไปแล้ว ถึงแม้ขนมปังปิ้ง 2-3ชิ้นจะไม่คณาท้องไปจนถึงเที่ยง (อันนี้สำหรับบางคน) แต่มันให้คุณค่าทางอาหารที่พอใช้ได้เหมือนกันนะ ยิ่งถ้าเป็นขนมปังแบบโฮลวีทพวกนี้ยิ่งดีใหญ่ ให้ทั้งสารอาหารซิงค์และธาตุเหล็ก พร้อมทั้งวิตามินบีรวมอีกเพียบให้ทั้งพลังงานและอาหารสมองอย่างดี ทานควบคู่ไปกับอาหารโปรตีนด้วย อย่าง นม, ไข่, ชีสรสโปรดสุดชอบ แต่อย่าลืมต้องไขมันต่ำ หรือจะครีมบัตเตอร์พีนัท (มีขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป) จะช่วยลดความหิว มือจะได้ต้องเผลอไปหยิบขนมขบเคี้ยวก่อนถึงอาหารเที่ยง
ข้าว
ไม่ต้องพูดมากเกี่ยวกับข้าว เพราะตั้งแต่เด็กไทยอย่างเรา ๆ เห็นและทานกันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เชื่อไหมว่ากว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลกทานข้าวเป็นอาหารหลัก ซึ่งข้าวมีคุณสมบัติช่วยให้ระบบการย่อยของร่างกายทำงานเป็นปกติด้วย ส่วนใครที่อยากได้ประโยชน์จากข้าวเต็ม ๆ ล่ะก็ เลือกทานข้าวซ้อมมือ จะได้วิตามินเพิ่มอีกเพียบ เมนูข้าวอาจจะเป็น ข้าวราดกะเพราไก่-ไข่ดาว รวมพลังงานที่ร่างกายได้รับยังสูสีกับอาหารเช้าแบบฝรั่งที่เทียบกันแล้ว ข้าวไทยเราอิ่มกว่าเยอะ
ว่างเปล่า
เป็นพวกประเภทไม่ยอมทานอาหารเช้า เพราะกลัวอ้วนหรืออย่างไรไม่ทราบได้ จากสถิติเขาบอกว่า90% ของเด็ก มักจะทานอาหารเช้าเป็นประจำอย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ ส่วนผู้ใหญ่ที่ทานอาหารเช้ามีจำนวนประมาณ 77% อยากจะบอกว่าการทานอาหารเช้าเนี่ยดี เพราะถ้ายังติดนิสัยทานอาหารเที่ยงเป็นมื้อเช้าแล้วล่ะก็ จะทำให้ระบบเผาผลาญอาหารทำงานน้อยลง ซึ่งจะทำให้สมองทำงานไม่เต็มที่ ไม่ค่อยมีสมาธิเท่าที่ควร
วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555
วิธีนั่งสมาธิ ( ง่าย ๆ 5 นาที ก่อนนอนจ้า จิตใจสงบสุข )
นั่งขัดสมาธิ ( ขาขวาทับขาซ้าย ) ------ > นั่งตัวตรง ------ > หลับตา ------ > ทำจิตให้ผ่อนคลาย ------ > ทำใจให้สบาย ------ > หายใจยาว ๆ ------ > เอาสติมาไว้กำหนดไว้ที่สะดือ ------ > หายใจเข้าให้เต็มท้อง ------ > จนกระทั่งท้องพอง ------ > แล้วท่องว่า ------ > พองหนอ ------ > หายใจออกให้ท้องยุบ ------ > แล้วท่องว่า ------ > ยุบหนอ
***** ให้ใจจดจ่ออยู่กับท้องที่พองออกและยุบเข้าตลอดเวลา 5 นาที หรือจะมากกว่านี้ก็ได้นะค่ะ
ลองดูนะค่ะแล้วคุณจะแปลกใจว่าชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แต่ถ้าในช่วงแรกยังไม่มีใด ๆ เปลี่ยนแปลง ก็อย่าเพิ่งท้อนะค่ะ สู้ สู้
นั่งขัดสมาธิ ( ขาขวาทับขาซ้าย ) ------ > นั่งตัวตรง ------ > หลับตา ------ > ทำจิตให้ผ่อนคลาย ------ > ทำใจให้สบาย ------ > หายใจยาว ๆ ------ > เอาสติมาไว้กำหนดไว้ที่สะดือ ------ > หายใจเข้าให้เต็มท้อง ------ > จนกระทั่งท้องพอง ------ > แล้วท่องว่า ------ > พองหนอ ------ > หายใจออกให้ท้องยุบ ------ > แล้วท่องว่า ------ > ยุบหนอ
***** ให้ใจจดจ่ออยู่กับท้องที่พองออกและยุบเข้าตลอดเวลา 5 นาที หรือจะมากกว่านี้ก็ได้นะค่ะ
ลองดูนะค่ะแล้วคุณจะแปลกใจว่าชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แต่ถ้าในช่วงแรกยังไม่มีใด ๆ เปลี่ยนแปลง ก็อย่าเพิ่งท้อนะค่ะ สู้ สู้
วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ครูคือใคร....... ใครคือครู ครูคือใคร ในวันนี้ ใช่อยู่ที่ ปริญญา มหาศาล ใช่อยู่ที่ เรียกว่า ครูอาจารย์ ใช่อยู่นาน สอนนาน ในโรงเรียน ครูคือผู้ ชี้นำ ทางความคิด ให้รู้ถูก รู้ผิด คิดอ่านเขียน ให้รู้ทุกข์ รู้ยาก รู้พากเพียร ให้รู้เปลี่ยน แปลงสู้ รู้สร้างงาน ครูคือผู้ ยกระดับ วิญญาณมนุษย์ ให้สูงสุด กว่าสัตว์ เดรัจฉาน ปลุกสำนึก สั่งสม อุดมการณ์ มีดวงมาน เพื่อมวลชน ใช่ตนเอง ครูจึงเป็น นักสร้าง ผู้ใหญ่ยิ่ง สร้างคนจริง สร้างคนกล้า สร้างคนเก่ง สร้างคนให้ ได้เป็นตัว ของตัวเอง ขอมอบเพลง นี้มา บูชาครู ...เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์... |
วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555
แบบแผนพฤติกรรมตามจรรยาบรรณครู พ.ศ. 2539
- ครูต้องรักและเมตตาศิษย์ โดยให้ความเอาใจใส่ช่วยเหลือ ส่งเสริมให้กำลังใจในการศึกษาเล่าเรียนแก่ศิษย์โดยเสมอหน้า
- ครูต้องอบรม สั่งสอน ฝึกฝน สร้างเสริมความรู้ ทักษะและนิสัยที่ถูกต้องดีงามให้แก่ศิษย์ อย่างเต็มความสามารถด้วยความบริสุทธิ์ใจ
- ครูต้องประพฤติ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ
- ครูต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคมของศิษย์
- ครูต้องไม่แสดดงหาประโยชน์อันเป็นอามิสสินจ้างจากศิษย์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และไม่ใช้ศิษย์กระทำการใดๆ อันเป็นการหาประโยชน์ให้แก่ตนโดยมิชอบ
- ครูย่อมพัฒนาตนเองทั้งในด้านวิชาชีพ ด้านบุคลิกภาพและวิสัยทัศน์ ให้ทันต่อการพัฒนาทางวิชาการ เศรษฐกิจ สังคมและการเมืองอยู่เสมอ
- ครูย่อมรักและศรัทธาในวิชาชีพครู และเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรวิชาชีพครู
- ครูพึงช่วยเหลือเกื้อกูลครูและชุมชนในทางสร้างสรรค์
- ครูพึงประพฤติ ปฏิบัติตน เป็นผู้นำในการอนุรักษ์และพัฒนาภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทย
วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ข่าวบันเทิง >> ดารา
แฟนๆลุ้น"ติ๊ก-อั้ม"หวนลงละครคู่กันอีก แต่ฝ่ายชายบอกยังไม่ว่าง
โคจรกลับมาเจอกันอีกครั้งในงาน Samsung Galaxy SIII ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน สำหรับคู่พระนางชื่อดัง “ติ๊ก-เจษฎาภรณ์” และ “อั้ม-พัชราภา” ทำเอาแฟนๆลุ้นว่าเมื่อไหร่จะหวนมาปะทะฝีมือกันในละครอีกครั้ง
ร่วมงานละครด้วยกันแล้ว วันนี้โคจรมาพบกันอีกติ๊ก : “จากละครเรื่อง “นางสาวจริงใจกับนายแสนดี” วันนี้ดีใจที่ได้กลับมาเจอสาวอั้มอีกครั้งนึงครับ”
จะมีโอกาสได้เห็นกลับมาเล่นละครคู่กันอีกไหม
อั้ม : “ก็พยายามถามพี่ติ๊กว่าจะเล่นละครอีกไหม”
ติ๊ก : “พัชราภาก็ถามผมไปแล้ว”
อั้ม : “ถามบ่อยค่ะ เจอกี่ครั้งก็ถามตลอด คำตอบเหมือนเดิม”
ติ๊ก : “(หัวเราะ) ก็ต้องหาโอกาสที่จะมาเจอให้ได้ครับ”
มีคนติดต่อให้ถ่ายแฟชั่นคู่ไหมติ๊ก : “ก็มีงานนี้แหละครับ ไม่ค่อยได้มีโอกาสเจอกันเท่าไหร่เพราะผมเองก็มีหนัง “I MISS U รักฉันอย่าคิดถึงฉัน” และก็ไปสัมผัสกับธรรมชาติ”
กลับมาเจอพี่อั้มอีกครั้งยังสวยเหมือนเดิมไหมติ๊ก : “ยังกิ๊งเหมือนเดิมเลยครับ ผมว่าพัชราภาเมื่อก่อนก็เห็นว่าเขาสวย แต่พอเห็นตอนนี้เราคิดว่าเขาสวยกว่าในครั้งนั้นครับ”
อั้ม : “ขอบคุณค่ะ”
ติ๊ก : “ไม่ใช่สวยอย่างเดียว เซ็กซี่ด้วยครับ”
อั้ม : “(ยิ้ม) ขอบคุณค่ะ พี่ติ๊กก็หล่ออยู่แล้วนะ หล่ออยู่ตัว”
ติ๊ก : “ก็มีภารกิจเยอะหลายอย่าง ดูแลที่บ้าน ออกไปถ่ายรายการ ช่วงนี้ก็ต้องเดินสายประชาสัมพันธ์เรื่องหนัง”
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)